หลายฝ่ายในสหราชอาณาจักรเรียกร้องรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ ที่ต้องเผชิญกับมาตรการควบคุมทางสังคมครั้งใหม่ตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ ในการยับยั้งสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่พบผู้ติดเชื้อในรอบวันล่าสุดมากกว่า 6,000 คน สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ว่ากระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักรรายงานเมื่อวันพุธ เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ว่าสถิติผู้ป่วยสะสมมีจำนวนอย่างน้อย 409,729 คน เพิ่มขึ้น 6,178 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. และเพิ่มขึ้นจากสถิติเมื่อวันอังคาร 1,252 คน
 
ขณะที่ในวันเดียวกันมีผู้เสียชีวิตอีก 37 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. เพิ่มสถิติสะสมของผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรเป็นอย่างน้อย 41,825 คน สูงที่สุดในทวีปยุโรป
 
ทั้งนี้ ผับ บาร์ ร้านอาหาร และสถานประกอบการเพื่อการนันทนาการทุกแห่งในอังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ต้องปิดทำการก่อนถึงเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 04.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. นี้เป็นต้นไป “จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง” การทำงานจากที่บ้านให้มากที่สุด และการยกระดับมาตรการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ซึ่งน่าจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงช่วงฤดูหนาวนี้
 
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ค่อยพอใจนักกับการต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมอีกครั้ง เนื่องจากเพิ่งกลับมาเปิดตามปกติได้ไม่กี่เดือน ด้านสมาชิกสภาสามัญทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเรียกร้องนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ขยายมาตรการช่วยเหลือแรงงานเกือบ 9 ล้านคน ที่ต้องหยุดงาน “อย่างไม่มีกำหนด” แต่อาจกลายเป็นการตกงานในอนาคต โดยธนาคารแห่งอังกฤษ ( บีโออี ) เตือนว่าหากภาครัฐไม่ดำเนินการเพิ่มเติม อัตราการว่างงานในประเทศจะเพิ่มเป็น 7.5% ภายในสิ้นปีนี้ จากสถิติ 4.1% เมื่อไตรมาสที่สอง